5 ไอเดียออกแบบภายในที่ช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอยในบ้านหรือคอนโด

ค้นพบไอเดียการออกแบบภายในที่ช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้งานให้มากที่สุดสำหรับบ้านและคอนโดขนาดเล็ก การใช้เฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน การจัดแสง พื้นที่แนวตั้ง และเทคนิคการเลือกสีที่มีประสิทธิภาพ

เรียนรู้วิธีเพิ่มพื้นที่ใช้สอยในบ้านหรือคอนโดของคุณด้วย 5 ไอเดียการออกแบบภายในที่เน้นประสิทธิภาพและความสวยงาม เหมาะสำหรับการอยู่อาศัยในเมืองที่มีพื้นที่จำกัด

ทุกวันนี้ หลายคนที่อาศัยอยู่ในเมืองอย่างกรุงเทพฯ อาจเจอกับปัญหาพื้นที่อยู่อาศัยที่มีจำกัด ไม่ว่าจะเป็นคอนโดขนาดเล็กหรือบ้านหลังเล็ก การจะทำให้บ้านดูกว้างขวาง น่าอยู่ และใช้งานได้จริง จึงกลายเป็นเรื่องท้าทายไม่น้อย เราเชื่อว่าการออกแบบภายในที่คิดมาอย่างดี จะช่วยให้แม้แต่พื้นที่เล็กที่สุดก็กลายเป็นพื้นที่ที่ใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ สวยงาม และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของเราได้

พื้นที่ใช้สอย คืออะไร?

          หลายคนอาจเข้าใจว่า “พื้นที่” ก็คือพื้นที่สี่เหลี่ยมที่เราเดินผ่าน แต่ “พื้นที่ใช้สอย” จริง ๆ แล้ว หมายถึงพื้นที่ที่สามารถนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นที่อยู่อาศัย ทำงาน หรือเก็บของ ซึ่งหลายมุมที่เรามองข้าม เช่น ใต้บันได เหนือประตู หรือมุมแคบ ๆ ข้างตู้ ล้วนสามารถแปลงโฉมให้กลายเป็นพื้นที่ใช้งานได้ ด้วยไอเดียที่เหมาะสม

1. เฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน – สั่งทำเพื่อพื้นที่ของคุณโดยเฉพาะ

ถ้าใครเคยเจอปัญหาเฟอร์นิเจอร์ล้นบ้าน หรือมีช่องว่างระหว่างตู้กับผนังเสียเปล่า ๆ “เฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน” คือคำตอบที่ลงตัว

ข้อดีของบิวท์อิน คือ:

  • เข้ากับขนาดและรูปทรงของห้องแบบเป๊ะ ๆ
  • ใช้พื้นที่แนวตั้งและแนวนอนได้เต็มที่
  • รวมฟังก์ชันหลายอย่างไว้ในชิ้นเดียว
  • ซ่อนสายไฟให้ดูเรียบร้อย
  • ช่วยให้ห้องดูโล่ง โปร่ง และไม่รกสายตา

Tips: ถ้าอยากให้บ้านยังคงกลิ่นอายความเป็นไทย ลองเลือกใช้ไม้สัก หรือไม้ไผ่ ที่เหมาะกับอากาศบ้านเรา และทนความชื้นได้ดี อาจตกแต่งด้วยลวดลายฉลุเล็ก ๆ หรืองานหวายแทรกบานตู้ ก็ช่วยเติมความอบอุ่นแบบไทยร่วมสมัยได้ดีเลยทีเดียว

2. เฟอร์นิเจอร์อเนกประสงค์ – ชิ้นเดียวจบ หลายฟังก์ชัน

เฟอร์นิเจอร์แบบนี้เหมาะมากกับไลฟ์สไตล์คนเมืองที่ต้องการความยืดหยุ่น เช่น:

  • โซฟาเบดสำหรับรับแขก
  • โต๊ะกินข้าวแบบพับขยายได้
  • ตู้นั่งเก็บของ (Ottoman) ที่เป็นได้ทั้งที่นั่ง โต๊ะกลาง และที่เก็บของ
  • โต๊ะทำงานพับเก็บได้
  • ชุดโซฟาแบบโมดูลาร์ที่ปรับตำแหน่งได้ตามใจ

Tips: เฟอร์นิเจอร์แนว “Japandi” ที่ผสมผสานความเรียบง่ายของญี่ปุ่นกับความอบอุ่นของสแกนดิเนเวีย กำลังได้รับความนิยมในหมู่คนรุ่นใหม่ เพราะดีไซน์สะอาดตา ใช้งานได้จริง และประหยัดพื้นที่

แนะนำเพิ่มเติม: อย่าลืมเลือกวัสดุที่ทนทาน โดยเฉพาะฮาร์ดแวร์ที่ใช้งานบ่อย และเลือกผ้าที่ระบายอากาศได้ดี

3. แสงสว่าง – เทคนิคง่าย ๆ ทำให้บ้านดูกว้าง ไม่อึดอัด

การจัดแสงให้ดี ไม่ใช่แค่เรื่องความสว่าง แต่ยังช่วยให้บ้านเล็กดูกว้างขึ้นโดยไม่ต้องต่อเติมเลยสักนิด

ไอเดียจัดแสงให้บ้านดูกว้างขึ้น:

  • เลือกใช้ ผ้าม่านโปร่งแสง เพื่อให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาได้มากขึ้น
  • จัดแสงแบบ แบ่งเลเยอร์ เช่น แสงหลัก (Ambient), แสงใช้งาน (Task), และแสงตกแต่ง (Accent)
  • ใช้ โคมไฟแขวนหรือไฟติดผนัง แทนโคมไฟตั้งพื้น เพื่อประหยัดพื้นที่
  • ติดตั้ง ไฟดาวน์ไลท์แบบฝังฝ้าเพดาน ช่วยให้เพดานดูสูงขึ้น
  • แขวน กระจกตรงข้ามหน้าต่าง เพื่อสะท้อนแสงธรรมชาติ ทำให้บ้านดูโปร่งโล่ง

Tips: ติดฟิล์มกรองแสงหรือใช้ ระแนงไม้บังแดด จะช่วยลดความร้อนจากแสงแดดแรง ๆ ได้ดี โดยยังให้บ้านสว่างจากแสงธรรมชาติอยู่เหมือนเดิม

4. เลือกสีให้เป็น – เคล็ดลับช่วยให้บ้านดูกว้างและน่าอยู่ขึ้น

สีเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยปรับ Mood และความรู้สึกของห้องได้ทันที ถ้าเลือกใช้ให้ถูก เทคนิคการใช้สีจึงเป็นอีกหนึ่งทางลัดสำหรับบ้านหรือคอนโดที่มีพื้นที่จำกัด

เทคนิคเลือกสีให้บ้านดูกว้างขึ้นแบบมือโปร:

  • ใช้ สีโทนอ่อน เช่น สีขาว ครีม เบจ หรือเทาอ่อน เพื่อให้ห้องดูสว่างและโปร่งตา
  • ใช้ โทนสีเดียวกันทั้งห้อง (Monotone) เช่น คุมธีมสีครีมทั้งหมด เพื่อให้ห้องดูต่อเนื่อง ไม่มีรอยตัดสายตา
  • เติมความน่าสนใจด้วย สีตัดแบบมีจุดโฟกัส เช่น ผนังหนึ่งด้านสีเขียวมะกอก หรือของตกแต่งโทนส้มอิฐ
  • ทาสี ฝ้าเพดานให้สว่างกว่าสีผนัง จะช่วยหลอกสายตาให้เพดานดูสูงขึ้น
  • เชื่อมโยงแต่ละโซนของบ้านด้วย เฉดสีที่ต่อเนื่องกัน เช่น ห้องนั่งเล่นกับห้องครัวใช้สีในโทนเดียวกัน จะช่วยให้บ้านดูกว้างและไม่รู้สึกถูกแบ่งแยก

Tips: อยากให้บ้านดูอบอุ่นและเป็นธรรมชาติ ลองเลือกโทนสีที่ได้แรงบันดาลใจจากธรรมชาติ เช่น สีน้ำตาลไม้ ดินสีแดง หรือเขียวใบไม้ นอกจากจะช่วยให้บ้านดูน่าอยู่ ยังเข้ากับงานตกแต่งได้หลายสไตล์ ทั้งมินิมอล และโมเดิร์น

5. ใช้พื้นที่แนวตั้งให้เต็มที่ – เคล็ดลับเพิ่มพื้นที่เก็บของในบ้านและคอนโดเล็ก

พื้นที่แนวตั้งในบ้านหรือคอนโดเล็กมักถูกมองข้าม แต่จริง ๆ แล้วเป็นพื้นที่สำคัญที่ช่วยเพิ่มฟังก์ชันการใช้งานและเก็บของได้เยอะมาก

ไอเดียใช้พื้นที่แนวตั้งอย่างชาญฉลาด:

  • ติดตั้ง ชั้นวางของเต็มผนัง เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของโดยไม่เปลืองพื้นที่พื้น
  • ใช้ กระถางต้นไม้แขวน หรือสวนแนวตั้ง ช่วยเพิ่มสีเขียวโดยไม่กินพื้นที่
  • เลือกใช้ โต๊ะพับติดผนัง สำหรับพื้นที่ทำงานหรือทานข้าว ที่เก็บได้เมื่อไม่ใช้งาน
  • ติดตั้ง ที่เก็บของเหนือประตู หรือด้านบนตู้เย็นหรือพื้นที่โล่งในครัว เพื่อใช้พื้นที่ว่างให้คุ้มค่าที่สุด
  • เปลี่ยนเป็น ประตูบานเลื่อน แทนบานเปิด เพื่อประหยัดพื้นที่และเพิ่มความคล่องตัว

Tips: ติดราวแขวนผ้าหรือชั้นเก็บของแบบลอยตัวในแนวดิ่ง เช่น ติดในห้องน้ำหรือหลังบานประตู ช่วยเพิ่มฟังก์ชันโดยไม่รบกวนพื้นที่พื้นเลยสักนิด — วิธีนี้เหมาะมากกับบ้านหรือคอนโดที่พื้นที่จำกัดแต่ของเยอะ!

ข้อควรรู้ก่อนเริ่มปรับแต่งพื้นที่

ก่อนเปลี่ยนบ้านหรือคอนโดให้ตรงใจ ลองเช็กสิ่งเหล่านี้ก่อน:

  • ตั้งงบให้ชัด – ลงทุนกับของคุณภาพดี ใช้ได้นาน ดีกว่าซื้อของถูกหลายชิ้นแล้วเสียบ่อย
  • ดูพฤติกรรมการใช้ชีวิต – ออกแบบให้ตรงกับสิ่งที่ทำทุกวัน เช่น ทำอาหาร ทำงาน หรือเลี้ยงแมว
  • โครงสร้างบ้านต้องตรวจเช็ก – ถ้าจะติดของหนัก เช่น ชั้นลอย หรือตู้แขวน อย่าลืมดูว่าผนังรับน้ำหนักไหวมั้ย
  • เผื่ออนาคตไว้ด้วย – เลือกดีไซน์หรือเฟอร์นิเจอร์ที่ปรับเปลี่ยนหรือขยับได้ถ้าชีวิตเปลี่ยน
  • จัดของให้พอดี ไม่ทำให้บ้านดูแน่น – มีที่เก็บของเยอะก็จริง แต่บ้านต้องยังดูโปร่ง ไม่อึดอัด

Tips: วัดขนาดให้เป๊ะทุกมุม โดยเฉพาะประตู ลิฟต์ และบันไดในคอนโด เพราะบางทีของที่ซื้อมาอาจ “เข้าไม่ได้”

เทรนด์มาแรง: Japandi & วัสดุเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เติมเต็มพื้นที่ใช้งานในบ้านและคอนโด

          เทรนด์ตกแต่งสไตล์ Japandi กำลังฮิตมากในกลุ่มคนที่อยากได้บ้านหรือคอนโดที่ดูมินิมอล แต่ยังอบอุ่นและใช้งานได้จริง สไตล์นี้ช่วยเพิ่มความรู้สึกโปร่ง โล่ง และเชื่อมโยงกับธรรมชาติ ซึ่งตอบโจทย์พื้นที่จำกัดในบ้านยุคใหม่ได้ดี

Japandi เน้น:

  • ดีไซน์เรียบง่าย ไม่รกสายตา ช่วยให้พื้นที่เล็กดูใหญ่ขึ้น
  • ใช้วัสดุธรรมชาติอย่างไม้ไผ่ ไม้สัก และหวาย ที่น้ำหนักเบาแต่ทนทาน
  • โทนสีอบอุ่นโทนเอิร์ธโทน ช่วยให้ห้องดูสบายตาและผ่อนคลาย
  • รายละเอียดงานฝีมือแบบมินิมอล ที่ทำให้ห้องไม่รู้สึกแข็งกระด้าง

        นอกจากนี้ เทรนด์ความยั่งยืนยังเข้ามามีบทบาทสำคัญ โดยการใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น

  • การใช้วัสดุท้องถิ่นเพื่อลดการขนส่งและช่วยสนับสนุนชุมชน
  • รีไซเคิลไม้เก่าหรือวัสดุเหลือใช้มาออกแบบใหม่
  • ผ้าธรรมชาติที่ระบายอากาศดี เหมาะกับอากาศร้อนแบบบ้านเรา
  • ไฟ LED ประหยัดพลังงาน ช่วยลดค่าไฟในระยะยาว
  • การนำต้นไม้เข้ามาช่วยสร้างบรรยากาศ (Biophilic Design) ทำให้พื้นที่เล็กดูสดชื่นและมีชีวิตชีวา

ทั้งหมดนี้ช่วยให้พื้นที่ใช้สอยในบ้านหรือคอนโดของคุณไม่แค่ “พอดี” แต่ยังน่าอยู่และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ได้เต็มที่

พื้นที่เล็ก แต่คิดใหญ่

บ้านหรือคอนโดที่ออกแบบอย่างตั้งใจ ไม่ได้แค่ทำให้พื้นที่ดูใหญ่ขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ชีวิตประจำวันของคุณง่ายและสะดวกมากขึ้น ด้วยเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์เฉพาะตัว การจัดแสงที่มีไอเดีย การเลือกสีที่เหมาะสม และการใช้พื้นที่แนวตั้ง ทุกมุมของบ้านจึงกลายเป็นพื้นที่ใช้งานจริงที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์

อย่าลืมว่า การเพิ่มพื้นที่ไม่ได้หมายความว่ายัดของเข้าไปให้เต็ม แต่คือการสร้าง “พื้นที่ให้หายใจ” ให้บ้านของคุณเป็นที่ที่ชีวิตได้เคลื่อนไหวอย่างอิสระ และใช้งานได้อย่างเต็มที่

Continue Reading

We showcasing a range of innovative projects and the diverse materials and unconventional forms employed in their construction.

5 ไอเดียออกแบบภายในที่ช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอยในบ้านหรือคอนโด

ค้นพบไอเดียการออกแบบภายในที่ช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้งานให้มากที่สุดสำหรับบ้านและคอนโดขนาดเล็ก การใช้เฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน การจัดแสง พื้นที่แนวตั้ง และเทคนิคการเลือกสีที่มีประสิทธิภาพ

เรียนรู้วิธีเพิ่มพื้นที่ใช้สอยในบ้านหรือคอนโดของคุณด้วย 5 ไอเดียการออกแบบภายในที่เน้นประสิทธิภาพและความสวยงาม เหมาะสำหรับการอยู่อาศัยในเมืองที่มีพื้นที่จำกัด

ทุกวันนี้ หลายคนที่อาศัยอยู่ในเมืองอย่างกรุงเทพฯ อาจเจอกับปัญหาพื้นที่อยู่อาศัยที่มีจำกัด ไม่ว่าจะเป็นคอนโดขนาดเล็กหรือบ้านหลังเล็ก การจะทำให้บ้านดูกว้างขวาง น่าอยู่ และใช้งานได้จริง จึงกลายเป็นเรื่องท้าทายไม่น้อย เราเชื่อว่าการออกแบบภายในที่คิดมาอย่างดี จะช่วยให้แม้แต่พื้นที่เล็กที่สุดก็กลายเป็นพื้นที่ที่ใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ สวยงาม และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของเราได้

พื้นที่ใช้สอย คืออะไร?

          หลายคนอาจเข้าใจว่า “พื้นที่” ก็คือพื้นที่สี่เหลี่ยมที่เราเดินผ่าน แต่ “พื้นที่ใช้สอย” จริง ๆ แล้ว หมายถึงพื้นที่ที่สามารถนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นที่อยู่อาศัย ทำงาน หรือเก็บของ ซึ่งหลายมุมที่เรามองข้าม เช่น ใต้บันได เหนือประตู หรือมุมแคบ ๆ ข้างตู้ ล้วนสามารถแปลงโฉมให้กลายเป็นพื้นที่ใช้งานได้ ด้วยไอเดียที่เหมาะสม

1. เฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน – สั่งทำเพื่อพื้นที่ของคุณโดยเฉพาะ

ถ้าใครเคยเจอปัญหาเฟอร์นิเจอร์ล้นบ้าน หรือมีช่องว่างระหว่างตู้กับผนังเสียเปล่า ๆ “เฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน” คือคำตอบที่ลงตัว

ข้อดีของบิวท์อิน คือ:

  • เข้ากับขนาดและรูปทรงของห้องแบบเป๊ะ ๆ
  • ใช้พื้นที่แนวตั้งและแนวนอนได้เต็มที่
  • รวมฟังก์ชันหลายอย่างไว้ในชิ้นเดียว
  • ซ่อนสายไฟให้ดูเรียบร้อย
  • ช่วยให้ห้องดูโล่ง โปร่ง และไม่รกสายตา

Tips: ถ้าอยากให้บ้านยังคงกลิ่นอายความเป็นไทย ลองเลือกใช้ไม้สัก หรือไม้ไผ่ ที่เหมาะกับอากาศบ้านเรา และทนความชื้นได้ดี อาจตกแต่งด้วยลวดลายฉลุเล็ก ๆ หรืองานหวายแทรกบานตู้ ก็ช่วยเติมความอบอุ่นแบบไทยร่วมสมัยได้ดีเลยทีเดียว

2. เฟอร์นิเจอร์อเนกประสงค์ – ชิ้นเดียวจบ หลายฟังก์ชัน

เฟอร์นิเจอร์แบบนี้เหมาะมากกับไลฟ์สไตล์คนเมืองที่ต้องการความยืดหยุ่น เช่น:

  • โซฟาเบดสำหรับรับแขก
  • โต๊ะกินข้าวแบบพับขยายได้
  • ตู้นั่งเก็บของ (Ottoman) ที่เป็นได้ทั้งที่นั่ง โต๊ะกลาง และที่เก็บของ
  • โต๊ะทำงานพับเก็บได้
  • ชุดโซฟาแบบโมดูลาร์ที่ปรับตำแหน่งได้ตามใจ

Tips: เฟอร์นิเจอร์แนว “Japandi” ที่ผสมผสานความเรียบง่ายของญี่ปุ่นกับความอบอุ่นของสแกนดิเนเวีย กำลังได้รับความนิยมในหมู่คนรุ่นใหม่ เพราะดีไซน์สะอาดตา ใช้งานได้จริง และประหยัดพื้นที่

แนะนำเพิ่มเติม: อย่าลืมเลือกวัสดุที่ทนทาน โดยเฉพาะฮาร์ดแวร์ที่ใช้งานบ่อย และเลือกผ้าที่ระบายอากาศได้ดี

3. แสงสว่าง – เทคนิคง่าย ๆ ทำให้บ้านดูกว้าง ไม่อึดอัด

การจัดแสงให้ดี ไม่ใช่แค่เรื่องความสว่าง แต่ยังช่วยให้บ้านเล็กดูกว้างขึ้นโดยไม่ต้องต่อเติมเลยสักนิด

ไอเดียจัดแสงให้บ้านดูกว้างขึ้น:

  • เลือกใช้ ผ้าม่านโปร่งแสง เพื่อให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาได้มากขึ้น
  • จัดแสงแบบ แบ่งเลเยอร์ เช่น แสงหลัก (Ambient), แสงใช้งาน (Task), และแสงตกแต่ง (Accent)
  • ใช้ โคมไฟแขวนหรือไฟติดผนัง แทนโคมไฟตั้งพื้น เพื่อประหยัดพื้นที่
  • ติดตั้ง ไฟดาวน์ไลท์แบบฝังฝ้าเพดาน ช่วยให้เพดานดูสูงขึ้น
  • แขวน กระจกตรงข้ามหน้าต่าง เพื่อสะท้อนแสงธรรมชาติ ทำให้บ้านดูโปร่งโล่ง

Tips: ติดฟิล์มกรองแสงหรือใช้ ระแนงไม้บังแดด จะช่วยลดความร้อนจากแสงแดดแรง ๆ ได้ดี โดยยังให้บ้านสว่างจากแสงธรรมชาติอยู่เหมือนเดิม

4. เลือกสีให้เป็น – เคล็ดลับช่วยให้บ้านดูกว้างและน่าอยู่ขึ้น

สีเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยปรับ Mood และความรู้สึกของห้องได้ทันที ถ้าเลือกใช้ให้ถูก เทคนิคการใช้สีจึงเป็นอีกหนึ่งทางลัดสำหรับบ้านหรือคอนโดที่มีพื้นที่จำกัด

เทคนิคเลือกสีให้บ้านดูกว้างขึ้นแบบมือโปร:

  • ใช้ สีโทนอ่อน เช่น สีขาว ครีม เบจ หรือเทาอ่อน เพื่อให้ห้องดูสว่างและโปร่งตา
  • ใช้ โทนสีเดียวกันทั้งห้อง (Monotone) เช่น คุมธีมสีครีมทั้งหมด เพื่อให้ห้องดูต่อเนื่อง ไม่มีรอยตัดสายตา
  • เติมความน่าสนใจด้วย สีตัดแบบมีจุดโฟกัส เช่น ผนังหนึ่งด้านสีเขียวมะกอก หรือของตกแต่งโทนส้มอิฐ
  • ทาสี ฝ้าเพดานให้สว่างกว่าสีผนัง จะช่วยหลอกสายตาให้เพดานดูสูงขึ้น
  • เชื่อมโยงแต่ละโซนของบ้านด้วย เฉดสีที่ต่อเนื่องกัน เช่น ห้องนั่งเล่นกับห้องครัวใช้สีในโทนเดียวกัน จะช่วยให้บ้านดูกว้างและไม่รู้สึกถูกแบ่งแยก

Tips: อยากให้บ้านดูอบอุ่นและเป็นธรรมชาติ ลองเลือกโทนสีที่ได้แรงบันดาลใจจากธรรมชาติ เช่น สีน้ำตาลไม้ ดินสีแดง หรือเขียวใบไม้ นอกจากจะช่วยให้บ้านดูน่าอยู่ ยังเข้ากับงานตกแต่งได้หลายสไตล์ ทั้งมินิมอล และโมเดิร์น

5. ใช้พื้นที่แนวตั้งให้เต็มที่ – เคล็ดลับเพิ่มพื้นที่เก็บของในบ้านและคอนโดเล็ก

พื้นที่แนวตั้งในบ้านหรือคอนโดเล็กมักถูกมองข้าม แต่จริง ๆ แล้วเป็นพื้นที่สำคัญที่ช่วยเพิ่มฟังก์ชันการใช้งานและเก็บของได้เยอะมาก

ไอเดียใช้พื้นที่แนวตั้งอย่างชาญฉลาด:

  • ติดตั้ง ชั้นวางของเต็มผนัง เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของโดยไม่เปลืองพื้นที่พื้น
  • ใช้ กระถางต้นไม้แขวน หรือสวนแนวตั้ง ช่วยเพิ่มสีเขียวโดยไม่กินพื้นที่
  • เลือกใช้ โต๊ะพับติดผนัง สำหรับพื้นที่ทำงานหรือทานข้าว ที่เก็บได้เมื่อไม่ใช้งาน
  • ติดตั้ง ที่เก็บของเหนือประตู หรือด้านบนตู้เย็นหรือพื้นที่โล่งในครัว เพื่อใช้พื้นที่ว่างให้คุ้มค่าที่สุด
  • เปลี่ยนเป็น ประตูบานเลื่อน แทนบานเปิด เพื่อประหยัดพื้นที่และเพิ่มความคล่องตัว

Tips: ติดราวแขวนผ้าหรือชั้นเก็บของแบบลอยตัวในแนวดิ่ง เช่น ติดในห้องน้ำหรือหลังบานประตู ช่วยเพิ่มฟังก์ชันโดยไม่รบกวนพื้นที่พื้นเลยสักนิด — วิธีนี้เหมาะมากกับบ้านหรือคอนโดที่พื้นที่จำกัดแต่ของเยอะ!

ข้อควรรู้ก่อนเริ่มปรับแต่งพื้นที่

ก่อนเปลี่ยนบ้านหรือคอนโดให้ตรงใจ ลองเช็กสิ่งเหล่านี้ก่อน:

  • ตั้งงบให้ชัด – ลงทุนกับของคุณภาพดี ใช้ได้นาน ดีกว่าซื้อของถูกหลายชิ้นแล้วเสียบ่อย
  • ดูพฤติกรรมการใช้ชีวิต – ออกแบบให้ตรงกับสิ่งที่ทำทุกวัน เช่น ทำอาหาร ทำงาน หรือเลี้ยงแมว
  • โครงสร้างบ้านต้องตรวจเช็ก – ถ้าจะติดของหนัก เช่น ชั้นลอย หรือตู้แขวน อย่าลืมดูว่าผนังรับน้ำหนักไหวมั้ย
  • เผื่ออนาคตไว้ด้วย – เลือกดีไซน์หรือเฟอร์นิเจอร์ที่ปรับเปลี่ยนหรือขยับได้ถ้าชีวิตเปลี่ยน
  • จัดของให้พอดี ไม่ทำให้บ้านดูแน่น – มีที่เก็บของเยอะก็จริง แต่บ้านต้องยังดูโปร่ง ไม่อึดอัด

Tips: วัดขนาดให้เป๊ะทุกมุม โดยเฉพาะประตู ลิฟต์ และบันไดในคอนโด เพราะบางทีของที่ซื้อมาอาจ “เข้าไม่ได้”

เทรนด์มาแรง: Japandi & วัสดุเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เติมเต็มพื้นที่ใช้งานในบ้านและคอนโด

          เทรนด์ตกแต่งสไตล์ Japandi กำลังฮิตมากในกลุ่มคนที่อยากได้บ้านหรือคอนโดที่ดูมินิมอล แต่ยังอบอุ่นและใช้งานได้จริง สไตล์นี้ช่วยเพิ่มความรู้สึกโปร่ง โล่ง และเชื่อมโยงกับธรรมชาติ ซึ่งตอบโจทย์พื้นที่จำกัดในบ้านยุคใหม่ได้ดี

Japandi เน้น:

  • ดีไซน์เรียบง่าย ไม่รกสายตา ช่วยให้พื้นที่เล็กดูใหญ่ขึ้น
  • ใช้วัสดุธรรมชาติอย่างไม้ไผ่ ไม้สัก และหวาย ที่น้ำหนักเบาแต่ทนทาน
  • โทนสีอบอุ่นโทนเอิร์ธโทน ช่วยให้ห้องดูสบายตาและผ่อนคลาย
  • รายละเอียดงานฝีมือแบบมินิมอล ที่ทำให้ห้องไม่รู้สึกแข็งกระด้าง

        นอกจากนี้ เทรนด์ความยั่งยืนยังเข้ามามีบทบาทสำคัญ โดยการใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น

  • การใช้วัสดุท้องถิ่นเพื่อลดการขนส่งและช่วยสนับสนุนชุมชน
  • รีไซเคิลไม้เก่าหรือวัสดุเหลือใช้มาออกแบบใหม่
  • ผ้าธรรมชาติที่ระบายอากาศดี เหมาะกับอากาศร้อนแบบบ้านเรา
  • ไฟ LED ประหยัดพลังงาน ช่วยลดค่าไฟในระยะยาว
  • การนำต้นไม้เข้ามาช่วยสร้างบรรยากาศ (Biophilic Design) ทำให้พื้นที่เล็กดูสดชื่นและมีชีวิตชีวา

ทั้งหมดนี้ช่วยให้พื้นที่ใช้สอยในบ้านหรือคอนโดของคุณไม่แค่ “พอดี” แต่ยังน่าอยู่และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ได้เต็มที่

พื้นที่เล็ก แต่คิดใหญ่

บ้านหรือคอนโดที่ออกแบบอย่างตั้งใจ ไม่ได้แค่ทำให้พื้นที่ดูใหญ่ขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ชีวิตประจำวันของคุณง่ายและสะดวกมากขึ้น ด้วยเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์เฉพาะตัว การจัดแสงที่มีไอเดีย การเลือกสีที่เหมาะสม และการใช้พื้นที่แนวตั้ง ทุกมุมของบ้านจึงกลายเป็นพื้นที่ใช้งานจริงที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์

อย่าลืมว่า การเพิ่มพื้นที่ไม่ได้หมายความว่ายัดของเข้าไปให้เต็ม แต่คือการสร้าง “พื้นที่ให้หายใจ” ให้บ้านของคุณเป็นที่ที่ชีวิตได้เคลื่อนไหวอย่างอิสระ และใช้งานได้อย่างเต็มที่

Continue Reading

We showcasing a range of innovative projects and the diverse materials and unconventional forms employed in their construction.
View all posts